การใส่รองเท้าส้นสูงโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเท้า

ปัจจุบันความนิยมของ รองเท้าส้นสูง นั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นแฟชั่นที่ค่อนข้างจะมีกระแสที่รวดเร็ว และเป็นรองเท้าที่ค่อนข้างทางการสำหรับสาว ๆ และยังสามารถหาซื้อได้ง่าย รวมไปจนถึงยังเป็นแบบที่สวมใส่ออกงานต่าง ๆ ได้อย่างไม่ต้องอายใคร อย่างไรก็ตามในการสวมใส่รองเท้าประเภทนี้เป็นประจำแทบทุกวันปัญหาหนึ่งที่มักจะเจอก็อาจจะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพของเท้าเป็นหลัก ดังนั้นหากต้องการที่จะสวมใส่รองเท้าประเภทนี้ไปนาน ๆ ก็อาจจะต้องใช้ หลักการใส่รองเท้าส้นสูงด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  1. เลือกใส่ขนาดไซส์ที่เหมาะกับเท้าของเรา – การใส่รองเท้าส้นสูงให้เหมาะกับเท้าของเรา นั้นเป็นวิธีการขึ้นพื้นฐานที่จะทำให้เราสามารถป้องกันอาการต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากรองเท้าแบบนี้ได้ รวมไปจนถึงจะทำให้สาว ๆ สามารถเลือกแบบที่ตนเองต้องการได้จริง ๆ และไม่ต้องเปลี่ยนคู่อยู่บ่อย ๆ โดยที่รองเท้านั้นควรที่จะสวมใส่แล้วรู้สึกสบายเท้าไม่ทำให้เกิดอาการคับหรือต้องเกร็งเท้ามากจนเกินไป
  2. ระหว่างควรเปลี่ยนไปใส่สไตล์อื่น ๆ บ้าง – การเปลี่ยนหรือสลับการใส่รองเท้าส้นสูงกับรองเท้าแบบอื่น ๆ อย่างรองเท้าแตะก็มักจะเป็นอีกแบบที่สาว ๆ ควรทำ เพราะจะทำให้ปัญหาดังกล่าวหายไปเช่นเดียวกัน เพราะปัญหาส่วนใหญ่มักจะเกิดจากที่สาว ๆ มักจะใส่ตลอดทั้งวันจนส่งผลเสียให้เกิดอาการปวดเท้าดังกล่าว

    รองเท้าส้นสูง
  3. การยืนอยู่บนรองเท้าอย่างมั่นคง – สาว ๆ ที่ชอบใส่รองเท้าแบบนี้ควรที่จะยืนอยู่ฐานของรองเท้าที่มั่นคง ไม่ควรที่จะสวมใส่แบบที่ทำให้เท้าของเราต้องขยับอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นก่อนสวมใส่อาจจะเลือกกระดาษทรายรองไว้ตรงบริเวณที่คิดว่าจะทำให้การเคลื่อนที่ของเท้านั้นส่งผลทำให้เกิดอาการบีบรัดเท้ามากจนเกินไป
  4. บริหารกล้ามเนื้อหลังจากการสวมใส่ – ปัญหาหนึ่งที่นับได้ว่าเป็น ผลกระทบที่เกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ นั้นล้วนมาจากกล้ามเนื้อทั้งสิ้น การที่สาว ๆ ได้ทำการคลายกล้ามเนื้อหลังจากการสวมใส่ย่อมที่จะทำให้ปัญหาดังกล่าวได้บรรเทา และเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตามทั้ง 4 วิธีการนับได้ว่าเป็นวิธีการเบื้องต้นที่จะทำให้ การสวมใส่รองเท้าส้นสูงของสาว ๆ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาอาการปวดต่าง ๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดบริเวณฝ่าเท้า บริเวณหลังเท้า หรืออาจจะลามขึ้นไปจนถึงบริเวณหลังซึ่งมักจะเป็นปัญหาหลัก ๆ ที่สาว มักจะพบเจอกันเป็นจำนวนมาก โดยวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่แก้ในปลายเหตุดังนั้นสาว ๆ ก็ควรที่จะแก้ที่ต้นเหตุด้วยการเลือกซื้อรองเท้าส้นสูงให้ถูกวิธี

เรื่องที่ควรรู้ - รู้รอบ รอบรู้ – อันตรายจากการใส่รองเท้าแตะแฟชั่น

อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมเลอซาช่าสิ่งที่สาว ๆ ต่างสนใจ

ปัจจุบันความนิยมในด้านการจัดแต่งทรงผมนั้นก็นับได้ว่าเป็นเทรนด์แฟชั่นอีกรูปแบบหนึ่งที่สาว ๆ ต่างต้องการ เนื่องจากทรงผมแต่ละทรงมักจะเหมาะกับการแต่งกายที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้สาว ๆ หลายคนจำเป็นที่จะต้องเข้าร้านทำผมแทบจะทุกวัน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเปลืองเงินและเสี่ยงต่ออาการผมเสียอย่างแน่นอน รวมไปจนถึงหากสาว ๆ ไม่ได้ใช้ร้านประจำก็อาจจะทำให้ขาดความมั่นใจได้ว่าช่างจะทำผมของเราออกมาให้ดูดีและมีสไตล์ที่เราต้องการ

lesasha


ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงมักจะมองหาวิธีการต่าง ๆ ที่จะสามารถดัดแปลงทรงผมของตัวเองให้ดูดี และมีน้ำหนักอยู่ตลอดเวลาด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา โดยวิธีการหนึ่งที่สาว ๆ มักจะใช้มากที่สุดก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดแต่งทรงผมแบบไฟฟ้าอย่างเช่น ที่หนีบผม ไดร์เป่าผม หรือที่ม้วนผม เป็นต้น และแน่นอนว่าหากเป็นอุปกรณ์เหล่านี้เป็นที่นิยมก็มีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้นทีจะตอบโจทย์ได้เท่ากับ LESASHA ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในการจัดแต่งทรงผมแต่ด้วยการออกแบบ การดีไซน์และการพัฒนาทำให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของทางแบรนด์นี้จึงได้รับการยอมรับบเป็นพิเศษ

LESASHA นั้นเปรียบเสมือนกับผู้นำของทางด้านการจัดแต่งทรงผมที่เมื่อสาว ๆ ได้ลองใช้ดูแล้วสามารถที่จะจัดแต่งผมของตัวเองให้ได้เป็นไปอย่างอิสระ และทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอน่ที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกอย่างมกามาย แต่สาว ๆ ก็ควรที่จะทำความเข้าใจให้ครบทุกประเภทเพื่อที่จะสามารถนำมาใช้งานได้อย่างมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น โดยที่ เลอซาช่านั้นประกอบไปด้วยแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

LESASHA SUPER JUMBO CURL

ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้สาว ๆ มี่เส้นผมลอนสวยและเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้งานเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ด้วยคุณสมบัติเบื้องต้นนั้นประกอบไปด้วย ทัวร์มาลีนที่จะทำให้สาว ๆ มีเส้นผมที่ดูเงางามหลังจากผ่านการใช้งาน มาพร้อมกับขนาดของแกนอยู่ที่ประมาณ 38 x 155 มม.



นอกจากนั้นเครื่องยังร้อนค่อนข้างที่จะเร็วพอสมควรเฉลี่ยอยู่ที่ 60 วินาที หรือประมาณ 1 นาที และยังสามารถที่จะปรับอุณหภูมิได้สูงถึง 200 องศามาพร้อมกับสายไฟที่ยาวกว่า 3 เมตรทำให้ใช้งานได้ง่ายในทุกสถานที่และสภาพแวดล้อม



Review เปรียบเทียบแกนม้วน Jumbo Curl & Super Jumbo Curl 

LESASHA SMART SLIM

ผลิตภัณฑ์ชิ้นต่อมาก็คือ เครื่องหนีบผมหรือที่หนีบผมเลอซาช่า ที่มาพร้อมกับระบบการหมุนเวียนแบบไอน้ำสมบูรณ์แบบ รวมทั้งมีร่องไอน้ำ 8 ชชช่องที่จะทำให้การหนีบเส้นผมที่เปียกแห้งได้อย่างรวดเร็ว รวมไปจนถึงไอน้ำจะทำให้เกิดความชุ่มชื้น และช่วยให้ถนอมเส้นผมเพื่อให้แห้งได้อย่างรวดเร็ว และไม่แห้งเสียได้ง่าย รวมไปจนถึงยังไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์หรืออันตรายต่อเส้นผมอย่างแน่นอน

LESASHA SMART SLIM


นอกจากนั้น ที่หนีบผม Lesasha ตัวนี้ยังมาพร้อมกับไดมอนด์ทั่วร์มาลีนที่เป็นแร่ธรรมชาติมากกว่า 95% ทำให้มีความแข็งแรงและค่อนข้างทนทานพอสมควร และยังเสริมด้วยด้ามจับป้องกันความร้อนและหน้าจอแบบแอลซีดีสกรีนที่จะทำให้สาว ๆ ได้ทราบถึงอุณหภูมิที่ปรากฏอยู่โดยสูงสุดจะอยู่ที่ 260 องศา และขั้วสายไฟหมุ่นได้ประมาณ 360 องศา


ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ถือได้ว่าเป็นแบบที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ณ ตอนนี้เพราะคุณสมบัติที่คบครัน และยังทำหน้าที่ในด้านที่จะทำให้สาว ๆ มีสุขภาพผมที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และมีน้ำหนัก อย่างไรก็ตามทางเลอซาช่ายังมีผลิตอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกอย่างเช่น ครีมหมักผม หรือ เจล เป็นต้น






เทคนิคการหนีบผมไม่ให้ผมเสียด้วย Lesasha


ปัจจุบันความนิยมในด้านการหนีบผมนั้นเริ่มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ สังเกตได้จากจำนวน เครื่องหนีบผมที่เริ่มจะมีวางขายอยู่อย่างมากมายหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ อย่างไรก็ตามมีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่สามารถจะเป็นผู้นำทางด้านนี้ โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ณ ขณะนี้ก็คือ ที่หนีบผม Lesasha ที่มีให้เลือกอย่างมากมายหลากหลายรุ่น

ที่หนีบผม Lesasha


อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะมีที่หนีบผมที่มีคุณภาพอย่าง Lesasha แล้วแต่หากใช้ไม่เป็นหรือไม่รู้จักวิธีการใช้งานก็อาจจะทำให้ประสบปัญหาได้เช่นเดียวกัน โดยปัญหาหลัก ๆ ที่มักจะเจออยู่เป็นประจำนั้นอาจจะเป็นปัญหาในด้านสุขภาพของเส้นผมที่ใช้มากจนเกินไป ย่อมที่จะสร้างทำให้ผมเสียทรงอย่างแน่นอน ดังนั้นหากสาว ๆ ต้องใช้เป็นประจำทุกวันอาจจะต้องใช้วิธีการง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
  • อันดับแรกให้สาว ๆ ทั้งหลายทำการแบ่งผมออกเป็นช่อ  ๆ โดยที่ไม่ต้องหนาหรือบางจนเกินไป เนืองจากหากต้องใช้ที่หนีบผมอย่างเช่น Lesasha หนีบไปที่ช่อผมที่น่าจนเกินไป หรือเกินจนความพอดีอาจจะทำให้ผมเสียได้โดยที่สาว ๆ ไม่ทันรู้ตัว แม้กระทั่งหนีบไปที่ช่อผมที่บางจนเกินไปก็ย่อมที่จะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก ดังนั้นควรที่จะจับช่อผมให้พอดี และค่อย ๆ ใช้ เครื่องหนีบผม Lesasha ทำการหนีบผมช่อนั้น ๆ โดยไม่ควรเกิน 3 ครั้ง
  • อันดับต่อสาว ๆ ควรที่จะใช้ที่หนีบผมอย่างเบามือที่สุดไม่ควรที่จะดึงผม หรือรุนแรงจนเกินไปเพราะอาจจะคิดว่าจะทำให้ผมออกมาตรงที่สุด และทำให้อยู่ในทรงที่สวยที่สุด แต่อันที่จริงแล้วการดึงผม หรือการใช้ที่หนีบผมแรงหรือหนักมือจนเกินไป ย่อมที่จะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้สาว ๆ ทำร้ายผมของสาว ๆ เอง
  • ควรหลีกเลี่ยงการหนีบผมหลาย ๆ ครั้งติดต่อกัน เพราะคิดว่าจะทำให้ผมตรง และมีน้ำหนักขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดเพราะจริง ๆ แล้วสาว ๆ ควรที่จะเลือกหนีบผมรอบละ 2 – 3 ครั้งต่อหนึ่งช่อ เพราะเพียงเท่านี้ก็จะทำให้สาว ๆ สามารถที่จะมีเส้นผมที่ตรงและดูเป็นธรรมชาติได้แล้ว
  • สาว ๆ ควรเลือกใช้เซรั่มป้องกันความร้อนซึ่งมักจะมีมาพร้อมกับกล่องบรรจุภัณฑ์ของที่หนีบผมแทบทุกรุ่น แม้แต่ Lesasha ที่มักจะมีเช่นเดียวกัน โดยที่เซรั่มดังกล่าวจะทำให้เส้นผมทนต่อความร้อนและป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี และไม่ทำให้ผมเสียได้ง่ายด้วย
  • สาว ๆ ไม่ควรที่จะหนีบผมขณะที่ผมเปียกหรือกำลังหมาด ๆ เพราะจะทำให้ผมเสียได้เร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปจนถึงฟื้นฟูได้ยากอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะหนีบผมทุกครั้งอาจจะใช้ ไดร์เป่าผมก่อนที่จะทำการหนีบผมแทบทุกครั้ง เพราะจะเป็นการป้องกันไม่ให้สาว ๆ เกิดผมเสียเป็นต้น
เพียงเท่านี้ก็จะทำให้สาว ๆ สามารถที่จะใช้ที่หนีบผมเป็น และสามารถปรับแต่งทรงผมให้เหมาะกับตัวเอง รวมทั้งให้ดีต่อสุขภาพของเส้นผมได้แล้ว ยังสามารถที่จะจัดแต่งเป็นทรงต่าง ๆ ได้ง่าย

ประโยชน์ของเครื่องนวดหน้าที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้

คุณผู้หญิงต่างทราบกันดีว่าเครื่องสำอางของผู้หญิงแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน โดยแบบที่ได้รับความนิยมและมักจะเป็นที่สนใจมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วนใบหน้าของสาว ๆ ที่เรียกได้ว่าเกิดรอยคล้ำ หรือรอยตำหนิไม่ได้ ดังนั้นสาว ๆ หลายคนจึงมักจะใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยทำให้สาว ๆ มีสุขภาพของใบหน้ากระจ่างใส และมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตามบางวิธีก็อาจจะใช้ได้เพียงครั้งคราว และไม่ถาวร

KURON


นอกจากนั้นวิธีที่สาว ๆ มักจะชื่นชอบกันมากที่สุดก็คงจะเป็นการใช้ครีมต่าง ๆ ชโลมบนลงบนหน้าเพื่อใช้ในการดูแลรักษาผิวก่อนนอน โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ผิวมีเซลล์ที่ดีและมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถทำให้ใบหน้ากระจ่างใสได้ อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วครีมที่ทาลงไปบนใบหน้านั้นส่วนมากแล้วจะไม่สามรถซึมซับลงไปบนใบหน้าได้ทั้งหมด อาจจะสามารถซึมซับลงไปได้เพียงแคไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงมักจะมองหา เครื่องนวดหน้า เพื่อใช้นำมาเป็นตัวช่วยเพื่อให้ครีมสามารถซึมซับลงไปในเนื้อผิวได้เป็นอย่างดี

เครื่องนวดหน้าที่สาว ๆ หลายคนให้ความนิยมก็คือ KURON ที่ในปัจจุบันเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความสมารถที่จะช่วยทำให้ใบหน้าของสาว ๆ กลับมามีชีวิตชีวาและชุมชื้นได้เหมือนปกติ อย่างไรก็ตาม Kuron เหมาะกับสาว ๆ ทุกสภาพผิวโดยแบ่งออกได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
  1. ผิวแห้ง – สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวที่ค่อนข้างแห้ง คิวรอน จะทำหน้าที่ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับสภาพผิวบนใบหน้าของสาว ๆ ให้กลับมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
  2. ผิวมัน – สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวที่ค่อนข้างมัน เครื่องนวดหน้า KURON จะเป็นตัวช่วยในด้านการขจัดสิ่งสกปรกออกจากใบหน้า และช่วยเสริมทำให้มีความมันในระดับที่สมดุล และยังจะช่วยเสริมทำให้สุขภาพผิวของสาว ๆ อยู่ในสภาวะปกติ
  3. ผิวผสม – สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวผสมตัวเครื่องนวดหน้าจะทำหน้าที่ในการปรับความสมดุลความมันของใบหน้า และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าและอยู่ในสภาพปกติ
  4. ผิวผู้สูงวัย – สำหรับสาว ๆ ที่มีลักษณะผิวสูงวัย เครื่องนวดหน้า จะทำหน้าที่ในการปรับความสมดุลให้บริเวณรอบดวง ใบหน้า หรือ พวงแก้ม กลับมาเต่งตึงเป็นเหมือนกับตอนที่เป็นวัยรุ่น รวมทั้งยังคอยช่วยปรับสภาพใบหน้าให้ชุ่มชื้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะสามารถดูแลรักษาให้ใบหน้ามีความชุ่มชื้นรวมไปจนถึงรักษาลักษณะของผิวต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวด้วย KURON ก็ตาม แต่สาว ๆ ก็ควรที่จะดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้ใบหน้าของสาว ๆ อยู่ในสภาพปกติ ไร้สิว และไร้ร้วรอยด้วยวิธีการต่าง ๆ ไมว่าจะเป็น การออกกำลังกาย คลายเครียด ลดการแต่งหน้าลงบ้าง หรือ ควรที่จะล้างเครื่องสำอางให้สะอาด เป็นต้น นอกจากนั้นสิ่ง ๆ ที่สาว ๆ ควรทราบก็คือ เทคนิคง่าย ๆ กับการนวดหน้าด้วยตัวเองโดย KURON

คุณผู้ชายควรทราบใส่ชุดไปงานแต่งอย่างไรดี

สำหรับคุณผู้ชายทั้งหลายที่ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ต้องเข้าร่วมงานแต่งกับเพื่อนฝูงไม่ว่าจะเป็นสนิทหรือไม่ก็ตาม แต่คุณเป็นผู้ที่ถูกเชิญไปร่วมงานนั้น ๆ แน่นอนว่าเรื่องยากลำบากเรื่องหนึ่งที่คุณผู้ชายมักจะถามกันมากที่สุดก็คงจะเป็น “ควรที่จะแต่งตัวอย่างไรดี” เพราะแน่นอนว่าหากหนุ่ม ๆ ไม่ได้เป็นเหล่าแฟชั่นจ๋าคงจะเป็นเรื่องยากพอดู ดังนั้นทางเราจึงขอนำเสนอหนุ่ม ๆ ด้วยวิธีการง่าย ๆ เหล่านี้ที่จะทำให้หนุ่ม ๆ ดูดีในคืนงานแต่ง

แฟชั่นเสื้อผ้าผู้ชาย


  1. เลือกชุดสูทก่อนเสมอเพื่อความเป็นทางการ
    คุณผู้ชายควรเลือกชุดสูทก่อนเป็นอย่างแรกเพราะเป็น เสื้อผ้าชาย ที่สวมใส่แล้วให้ความเป็นทางการมากที่สุด ด้วยสไตล์ของเสื้อทั้งด้านการดีไซน์และออกแบบ จึงเหมาะสำหรับร่วมงานสำคัญ ๆ ลักษณะนี้มากที่สุด ซึ่งอาจจะเลือกสีที่เหมาะกับเสื้อตัวในอาจจะเป็นไปได้ทั้ง สูทสีดำ กรมท่า หรือโทนเข้มสักเล็กน้อย
  2. เสื้อเชิ้ตสีขาวทางเลือกสำหรับหนุ่ม ๆ
    หลังจากที่หนุ่ม ๆ สามารถเลือกสูทที่เหมาะกับตัวเองได้แล้ว ต่อมาควรเลือก เสื้อเชิ้ต ที่เหมาะกับสูทนั้น ๆ ซึ่งแบบที่พื้นฐานมากที่สุดและค่อนข้างทางการอาจจะเป็นลักษณะของ เสื้อเชิ้ตชายสีขาว และตามด้วยการผูกเนคไทด้วยสีโทนเข้มอีกรอบ เพียงเท่านี้หนุ่ม ๆ ก็จะดูทางการในวันแต่งงานของเพื่อนได้แล้ว

    การแต่งกายสำหรับการแต่งงาน
  3. ให้รายละเอียดทุกจุดแม้แต่กระเป๋าเสื้อ
    นอกจากนั้นหนุ่ม ๆ ควรที่จะดีไซน์กระเป๋าเสื้อไม่ว่าจะเป็น เชิ้ต สูท หรืออะไรก็ตามให้เป็นระเบียบและมีดีไซน์ที่ดี อาจจะใส่แว่นตาลงไปในกระเป๋าเพื่อไม่ให้ว่างจนเกินไป หรือเลือกที่จะประดับด้วยผ้าเช็ดหน้าเพื่อเสริมทำให้หนุ่ม ๆ สามารถสร้างจุดเด่นในงานได้
  4. นาฬิกาข้อมือ
    เครื่องประดับอย่าง นาฬิกาข้อมือ ก็มีความสำคัญสำหรับงานลักษณะนี้ซึ่งหนุ่ม ๆ อาจจะมองหาสไตล์ของนาฬิกาข้อมือที่มีการดีไซน์ออกมาค่อนข้างทางการ ไม่ว่าจะเป็นสายหนัง หรือสายเหล็กแต่ควรที่จะเป็นสายเหล็กเพราะจะดูทางการกว่าสายหนังอยู่พอสมควร อีกทั้งควรที่จะเปิดแขนเสื้อสูทเพื่อให้นาฬิกาเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจเพิ่มเข้าไปอีก

    เสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย
  5. รองเท้าสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
    หนุ่ม ๆ สามารถหามองหาเสื้อเชิ้ตได้แล้ว ชุดสูทได้แล้ว หรือ นาฬิกาข้อมือที่ใช่ได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรจะให้ความสนใจอีกจุดก็คือ “รองเท้า” แม้ว่างานจะค่อนข้างทางการแต่ในงานลักษณะนี้ยังแฝงมาด้วยความสนุกสนาน รื่นเริง และไม่ใช่งานสไตล์กาล่าดินเนอร์บางครั้งการใส่รองเท้าหนังอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ดังนั้นควรเลือกรองเท้าหุ้มส้นปกติ แต่สีที่เลือกอาจจะโทนเข้มสักเล็กน้อยเพื่อให้ดูทางการมากยิ่งขึ้น

ทั้ง 5 วิธีการคือเทคนิคการแต่งกายด้วย เสื้อผ้าชาย ให้เข้ากับงานแต่งงานมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามทั้ง 5 วิธีการก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ใช้เสมอไปเพราะหนุ่ม ๆ ควรให้ความสำคัญทางด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย อย่างเช่น ก่อนเข้าเริ่มงานก็อาจจะต้องลงชื่อเพื่อแสดงเป็นหลักฐาน พร้อมกับของขวัญที่เตรียมมา นอกจากนั้นในการแต่งกายอาจจะต้องเน้นให้เหมาะกับตีมของงานสักเล็กน้อย ไม่ควรที่จะฉึกตีมหรือไปคนละแนวกับงาน เพราะนอกจากคุณจะไม่ใช่จุดเด่นอาจจะเป็นตัวแปลกประหลาดภายในงานในทันที

เสริม - เสื้อผ้าแฟชั่นชายเลือกใส่อย่างไรให้ดูดีและมีสไตล์

7 วิธีง่าย ๆ ที่คุณผู้ชายควรทราบในการเลือกกางเกงยีนส์ในสไตล์ที่คุณชอบ

เครื่องแต่งกายของผู้ชายแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบรวมถึง กางเกงยีนส์ ที่เป็นสไตล์ของเครื่องแต่งกายที่ค่อนข้างจะได้รับความนิยมอย่างมากมาตั้งแต่อดีต จนมาถึง ณ ตอนนี้ เนื่องจากยีนส์เป็นสไตล์ของกางเกงที่ใส่แล้วรู้สึกสบายตัว สามารถเข้ากับเครื่องแต่งกายอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็น การใส่กับเสื้อเชิ้ต หรือ การใส่คู่กับเสื้อยืด ซึ่งก็แล้วแต่ที่เราจะจินตนาการได้

กางเกงยีนส์


ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นักที่คุณผู้ชายมักจะมี กางเกงยีนส์ชาย สักตัวสองตัวภายในตู้เสื้อผ้าของหนุ่ม ๆ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ในข้างต้น ที่สามารถนำมามิกซ์และแมทซ์ให้เข้ากันกับเครื่องแต่งกายสไตล์อื่น ๆ ได้ง่ายนั่นเอง อย่างไรก็ตามคุณผู้ชายทั้งหลายที่ชื่นชอบในการใส่ยีนส์มักจะเลือกแบบที่ตนเองชอบไม่ได้เสียที ดังนั้นนี่คือ 7 วิธีการเลือกซื้อกางเกงยีนสสำหรับผู้ชายคู่ใจที่จะทำให้ได้แบบที่คุณต้องการมากที่สุด

  1. ไม่ต้องกังวลเรื่องรูปร่าง
    สำหรับคุณผู้ชายที่ชื่นชอบ กางเกงยีนส์ แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหน หรือทรงไหนดี หรือควรที่จะเลือกตามแบบฉบับของผู้หญิงที่ต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าจะต้องเลือกสไตล์แบบไหน ให้เหมาะกับรูปร่างของเรา แต่สำหรับ กางเกงยีนส์ของผู้ชาย นั้นไม่ต้องกังวลในด้านของรูปร่าง แต่ควรเลือกแบบเฉพาะตามแบบความชอบของตัวเอง ชอบทรงไหน สไตล์ไหนก็เลือกเอาเลย แต่อาจจะให้เหมาะกับช่วงเวลา หรือสถานทีที่ต้องการไปสักเล็กน้อย

    กางเกงยีนส์ชาย
  2. เลือกซื้อขนาดเอวให้เล็กกว่าเอวจริง
    คุณผู้ชายบางคนอาจจะไม่เห็นด้วยกับ การเลือกซื้อกางเกงยีนส์ ด้วยหลักการลักษณะนี้เพราะถ้าหากเราเลือกแบบที่เล็กกว่าขนาดเอวของเรา แล้วจะสามารถใส่ได้อย่างไร แต่รู้หรือไม่ว่าอันที่จริงแล้วกางเกงยีนส์แทบทุกชนิดมักจะตัดเย็บมาในรูปแบบฉบับของ Twill จึงทำให้ตัวยีนส์สามารถที่จะขยายขนาดได้เอง

    กางเกงยีนส์ผู้ชาย
  3. กางเกงยีนส์เข้ารูปไว้ก่อน
    ถ้าคุณผู้ชายตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี ควรที่จะมองหา กางเกงยีนส์ผู้ชายแบบทรงเข้ารูป ก่อนเป็นอันดับแรกเพราะมันจะทำใหคุณผู้ชายดูขาเล็กลง รวมไปจนถึงช่วยทำให้มีจุดเด่น อย่างไรก็ตามไม่ควรเลือกแบบที่รัดจนทรมานน้องชายจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้การลุก การนั่ง ทำได้ค่อนข้างลำบากพอสมควร

    กางเกงยีนส์ชายเข้ารูป
  4. สังเกตกระเป๋าหลังก่อนจะซื้อ
    ในข้อนี้คุณผู้ชายควรที่จะสังเกตกระเป๋าด้านหลังของ กางเกงยีนส์ชายทุกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินเพราะหากลายบนกระเป๋าหลังดูเยอะจนเกินไปอาจจะทำให้ดูไม่ดีเท่าไหร่นัก ต่อภาพลักษณ์ของคุณผู้ชายทั้งหลาย รวมไปจนถึงหากเลือกแบบที่ใหญ่มาก ๆ อาจจะทำให้หลาย ๆ คนคิดว่าคุณกำลังใส่ยีนส์แบบหลุดตูด

    กางเกงยีนส์
  5. ส่วนประกอบที่นำมาผลิตเป็นกางเกงยีนส์
    สำหรับวัสดุที่นำมาผลิตเป็น กางเกงยีนส์ นั้นถือได้ว่ามีความสำคัญมาก ๆ เพราะยิ่งเลือกแบบที่ผลิตมาจากวัสดุคุณภาพดีย่อมที่จะทำให้การสวมใส่ของเรารู้สึกสบายยิ่งขึ้น โดยส่วนมากแล้วยีนส์มักจะผลิตมาจากเนื้อผ้าอยู่ไม่กี่ประเภทอย่างเช่น Lycra หรือ Cotton ซึ่งจะให้ความยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าเป็นผ้าชนิดอื่น ๆ อาจจะส่งผลให้ร้อนโดยไม่รู้ตัวได้

    เนื้อผ้าที่นำมาผลิตกางเกงยีนส์ของผู้ชาย
  6. เลือกครั้งแรกควรที่จะเลือกแบบสีเข้ม
    สำหรับคุณผู้ชายที่ต้องการความสดใหม่ และเป็นทางการควรที่จะเลือก กางเกงยีนส์ชายแบบสีเข้ม เสมอเพราะจะทำให้คุณผู้ชายดูเหมือนกับใส่ยีนส์ใหม่ตลอดเวลา รวมทั้งยังแฝงมาด้วยความเป็นทางการมากกว่าการใส่ยีนส์แบบสีอ่อน หรือสีฟอกอย่างแน่นอน

    สีของกางเกงยีนส์
  7. การปรับแต่งการใส่ยีนส์
    คุณผู้ชายทั้งหลายในสมัยนี้มักจะมีการแต่งยีนส์ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะใส่แบบเหยียบปลายกางเกง หรือแบบอื่น ๆ อีกมากมายขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่อันที่จริงแล้วเพื่อความสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อยคุณผู้ชายควรเลือกแบบที่พอดีกับส้นเท้า หรือข้อเท้าเพราะจะทำให้การสวมใส่ของคุณดูดี แต่ถ้ายาวลงมาก็อาจจะเลือกการพับขาเพื่อไม่ให้ยีนส์ต้องลากกับพื้น

    ปรับแต่งการใส่กางเกงยีนส์สำหรับผู้ชาย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้ง 7 ข้อจะเป็นวิธีการแนะนำในการเลือกซื้อกางเกงยีนส์ผู้ชายให้ได้ตามแบบฉบับที่หนุ่ม ๆ ต้องการ แต่หลังจากได้ยีนส์ที่ตนเองอยากที่จะนำมาใส่ได้แล้ว หนุ่ม  ๆ ต้องทราบด้วยว่า คุณผู้ชายควรใส่กางเกงยีนส์อย่างไรให้โดนใจสาว ๆ นอกจากนั้นการดูแลรักษายีนส์ก็ถือไดว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งหลายคนอาจจะชอบซักยีนส์ทุกอาทิตย์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยเพราะมันจะทำให้สีสีดและจางลงอย่างแน่นอน แต่ควรที่จะใช้วิธีการ 2 – 3 เดือนต่อการซักหนึ่งครั้งจะทำให้สีของยีนส์ดูดีและมีสไตล์แน่นอน แต่ถ้าคุณใส่เหยียบโคลนก็ควรที่ตะซักในทันที

More