เสื้อผ้าแฟชั่นชายเลือกใส่อย่างไรให้ดูดีและมีสไตล์

ปัจจุบันการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชายนับได้ว่ามีการแข่งขันที่สูงเหมือนกัน ดดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนด์แฟชั่นการแต่งกายในช่วงของพนักงานออฟฟิศ หรือเหล่านักศึกษาเพราะในช่วงนี้คงจะเป็นช่วงที่หนุ่ม ๆ มักจะจัดเต็มอย่างสม่ำเสมอต้นและเสมอปลายทั้งการใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ หรือการดัดแปลงชุดต่าง ๆ นานา อย่างไรก็ตามหากไม่ต้องการแป๊กก็ควรที่จะเลือกเสื้อผ้าแฟชั่นมาใส่ให้ดีไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้อายไม่รู้ตัว

สำหรับเสื้อผ้าแฟชั่นที่คุณผู้ชายให้ความสนใจกันอย่างมากมายและมักจะต้องหามาใส่อยู่เป็นประจำตอนนี้ก็จะเป็นในลักษณะของเสื้อเชิ้ตแฟชั่น เสียส่วนมากเพราะสามารถใส่ได้หลาย ๆ สถานการณ์อย่างเช่น การใส่ทำงาน หรือการใส่ร่วมงานสำคัญ ๆ ต่าง เพียงแค่ใช้สูทคลุมเล็กน้อยเป็นต้น แต่การใส่แต่เชิ้ตชายอย่างเดียวก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป เพราะอาจจะเบื่อได้เหมือนกับสาว ๆ ที่มักจะมองหาเสื้อผ้าแฟชั่นสไตล์ใหม่ ๆ มาใส่สม่ำเสมอไม่เสื่อมคลาย 

ดังนั้นในการแต่งตัวของคุณผู้ชายควรที่จะให้ความสำคัญด้านต่าง ๆ เหล่านี้เช่นเดียวกัน

อันดับแรกคุณหนุ่ม ๆ ควรที่จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับระบบและระเบียบของเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชายให้มาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเสื้อเชิ้ตคู่ใจควรที่จะรีดให้มันเรียบเสียบ้าง เพื่อให้การใส่ของเรานั้นเนี๊ยบและสามารถโชว์สาวได้อย่างไม่อายใคร ลองคิดง่าย ๆ ว่าขนาดคุณผู้ชายเห็นเพื่อนกันเองใส่เสื้อยับก็นินทาหลับหลังกันไม่ใช่น้อย แล้วถ้าเป็นคุณไปใส่ไปหาเพื่อนแฟนสาวจะขนาดไหน แต่ถ้ารีดไม่ทันหรือไม่อยากจะเนี๊ยบจนเกินไปก็อาจจะเลือกรีดเฉพาะบางจุดก็ยังได้ นอกจากนั้นคุณหนุ่ม ๆ ควรที่จะให้ความสำคัญในด้านเครื่องประดับไม่ควรที่จะให้ความสำคัญมากจนเกินไปด้วยวิธีการจับทุกอย่างมาใส่ในที่เดียว มันจะทำให้คุณหนุ่มดูหมองในทันที คุณผู้ชายควรที่จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแต่งให้ตัวเองอยู่ในแบบ เรียบง่าย และดูดี

อย่างไรก็ตามเพียงแค่เสื้อผ้าแฟชั่นก็คงยังไม่พอ เพราะหนุ่ม ๆ ก็อาจจะเสริมด้วยเครื่องแต่งกายอื่น ๆ 

ด้วยเพื่อที่จะเป็นตัวเสิมให้หนุ่ม ๆ ดูดียิ่งขึ้นไป อย่างเช่น การใส่รองเท้าหนัง หรือรองเท้าที่ค่อนข้างจะสุภาพเล็กน้อย และควรเลือกคู่ที่เหมาะกับการแต่งกายในครั้งนั้น ไม่ควรที่จะเลือกคู่ที่โดดเด่นจนทำให้กลายเป็นจุดสนใจเพียงจุดเดียว ดังนั้นในการใส่เครื่องแต่งกายแฟชั่น หรือเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้ชายที่ดีที่สุดควรที่จะใส่แล้วทำให้ตัวเอง ดูดีและเป็นจุดเด่นเพียงจุดเด่น ไม่ควรที่จะทำให้ตัวเองมีหลายจุดสนใจ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะมองว่าดูไม่ดีอย่างแน่นอน

กระเป๋าสะพายเลือกอย่างไรใหเหมาะกับตัวเรา

แฟชั่นกระเป๋าสะพายตอนนี้ทุกคนต่างทราบกันดีว่ามีความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเป๋าสะพายของผู้หญิงที่มีขนาดกระเป๋าค่อนข้างใหญ่ที่สามารถจะจับสัมภาระใส่ได้อย่างหลากหลายก็มักจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นไป แต่ในบางครั้งหากเดินทางใกล้ ๆ ก็ไม่ควรที่จะใช้ใบที่ใหญ่จนเกินไปควรที่จะเปลี่ยนมาเป็นกระเป๋าสะพายข้างแบบขนาดทรงเล็ก เพราะหากใส่แบบทรงใหญ่จนเกินไป และเต็มไปด้วยสัมภาระที่หนักหนาสาหัสอาการปวดไหล่ ปวดหลังก็จะถามหาอย่างแน่นอน นอกจากนั้นหากถาโถมใส่แต่สิ่งของที่เกินความจำเป็นจนเต็มกระเป๋าก็อาจจะทำให้รูปทรงของกระเป๋านั้นเสียได้

ดังนั้นการเลือกกระเป๋าสะพายขนาดเล็กจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ไม่น่ายินดีนัก เพราะมันจะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกระเป๋าสะพายอย่างแน่นอน เพราะมาพร้อมกับความเป็นแฟชั่น และที่สำคัญด้วยขนาดที่เล็กทำให้ใส่สัมภาระได้น้อย จึงไม่ค่อยส่งผลกระทบเท่าไหร่นักในด้านการพกพาหรือเดินทางไปไหนมาไหน

• ปลอดภัยและไร้กังวล

  เมื่อคุณผู้หญิงทั้งหลายหันมาใช้กระเป๋าสะพายข้างแบบขนาดจิ๋ว หรือเล็กก็ไมต้องเป็นกังวลในด้านการถูกล้วงกระเป๋า หรือป้องกันปัญหาในด้านการกระชากกระเป๋าระหว่างการเดินทางเป็นต้น

• สะดวกและสบาย
  
  

  เนื่องจากกระเป๋าสะพายใบขนาดเล็กจะมีน้ำหนักที่เบามาก ๆ แม้ว่าจะใส่สัมภาระไว้เต็มกระเป๋าก็ตาม นอกจากนั้นในด้านการหยิบหรือจับสิ่งของภายในกระเป๋าก็ทำให้กลายเป็นเรื่องง่ายในทันที เพราะสามารถที่จะมองหาสัมภาระได้ง่ายนั่นเอง

• แฟชั่นจ๋า

  แน่นอนว่ากระเป๋าสะพายผู้หญิงที่มีขนาดรูปทรงที่เล็กกว่าชาวบ้านชาวช่องจะต้องแฝงมาด้วยความเป็นแฟชั่นอย่างแน่นอน ทั้งในด้านการออกแบบและสีสันที่มักจะมีการออกแบบให้ไม่เหมือนใครอยู่เสมอ อย่างเช่น อาจจะเป็นรูปทรงต่าง ๆ นานา ๆ แตกต่างกันออกไป บ้างก็สี่เหลี่ยม วงกลม หรือไร้รูปแบบ

อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระเป๋าสะพายเป็นเทรนด์แฟชั่นที่ตอนนี้สาว ๆ ทุกคนจะต้องมีเก็บไว้ในตู้ให้ได้ แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะมองหารูปแบบที่โดนใจหรือถูกใจสาว ๆ และสามารถใช้ได้อย่างลงตัว ดังนั้นหากสาว ๆ กำลังมองหากระเป๋าสะพายของผู้หญิงสักใบไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ก็ตามควรให้ความสำคัญกับสิ่ง ๆ ต่าง ๆ เหล่านี้

1. ความยาวของกระเป๋าสะพายจะต้องเหมาะสมกับรูปร่าง

   การเลือกความยาวของกระเป๋าสะพายนับได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ดังนั้นเมื่อได้เลือกซื้อมาแล้วจากร้านค้าหรือก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงิน ควรที่จะทดลองสะพายกระเป๋าใบนั้นสักครั้งก่อนว่าสมส่วนกับรูปร่างของเราหรือไม่อย่างไร หรือรูปร่างของผู้เลือกซื้อมีความเหมาะสมกับกระเป๋าสะพายแบบไหน สายยาว สายสั้น เป็นต้น เพราะในแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกันและเหมาะสมกับสาว ๆ ทีมีลักษณะร่างกายแตกต่างกันออกไป

2. ตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าสะพายใบนั้น ๆ

   วัสดุและคุณภาพของวัสดุนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญเสมอ เพราะกระเป๋าที่ไม่มีคุณภาพมักจะชำรุด และเสียหายได้ง่ายดังนั้นในการเลือกซื้อควรให้ความสำคัญในด้านนี้ให้มากที่สุด ด้วยการตรวจสอบกับตัวเองก่อนว่ากระเป๋าสะพายที่เราจะเลือกนั้นจะต้องมีอายุในการใช้งานเท่าไหร่ต่อกระเป๋าหนึ่งใบ หากต้องการใช้ระยะเวลานานควรที่จะเลือกแบบที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง เพราะแน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมกับความคุ้มค่าอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามทั้งสองประเด็นอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป เพราะสาว ๆ หลายคนมักจะนิยมกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมต่าง ๆ นานา ดังนั้นในการเลือกซื้อก็ควรให้มีความคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป เพราะหากซื้อกระเป๋าสะพายราคาเฉียดหมื่นมาติดตัว แต่ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปีก็ไม่ถือว่ามีความคุ้มค่าเท่าไหร่นัก

ผู้ชายควรเลือกกระเป๋าถืออย่างไรให้เหมาะกับบุคลิกของตัวเอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าแฟชั่นกระเป๋าถือผู้ชายนั้นได้รับความนิยมไม่แพ้กับของสาว ๆ เท่าไหร่นัก เนื่องจากหนุ่ม ๆ ก็มักจะเป็นเพศที่ชอบที่จะพกสัมภาระมากมายไม่ต่างจากสาว ๆ เท่าไหร่นัก สังเกตได้ง่าย ๆ จากพนักงานออฟฟิศหนุ่ม ๆ ที่มักจะมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายหลังหรือกระเป๋าเป้ ที่ภายในกระเป๋าจะเต็มไปด้วยสัมภาระต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นหากหนุ่ม ๆ ที่กำลังต้องกระเป๋าถือสำหรับผู้ชายสักใบก็ควรที่จะเลือกรูปแบบที่เหมาะกับตัวเอง ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปเหมือนกับสาว ๆ

ลักษรณะของกระเป๋าถือผู้ชายที่เหมาะกับบุคลิกหนุ่ม ๆ

1. รูปแบบของกระเป๋าถือใบนั้น

   ปัจจุบันกระเป๋าถือผุ้ชายมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบหนุ่ม ๆ ก็อาจจะต้องซื้อแบบที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง อย่างเช่นกระเป๋าถือผู้ชายแบบใส่เอกสาร หนุ่ม ๆ ก็จะสามารถนำมาใส่เอกสาร เพื่อที่จะนำไปพรีเซ้นต์งานหรืออะไรต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเป็นต้น

2. สีของกระเป๋าถือผู้ชายใบนั้น
   
   

   แน่นอนว่าความเป็นแฟชั่นยังคงสำคัญเสมอดังนั้นในการเลือกสีของกระเป๋าถือผู้ชายอาจจะต้องเลือกสีดำ น้ำตาลหรืออกเข้ม ๆ สักเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นถึงความเป็นมืออาชีพ และมีบุคลิกภาพที่ดี หรืออาจจะเลือกใช้เป็นแบบกระเป๋าหนังก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง เนื่องจากกระเป๋าหนังจะทำให้หนุ่ม ๆ ดูดีขึ้นไปอีกอีกทั้งยังอยู่ได้นานไม่ค่อยพังหรือชำรุดเท่าไหร่นัก

3. การดีไซน์ของกระเป๋าถือ

   คุณผู้ชายอาจจะมองหากระเป๋าถือที่มีขนาดไม่เหมาะมือหรือใหญ่จนเกินไป และสามารถพกพาได้อย่างสะดวกพร้อมทั้งยังสามารถที่จะใส่เอกสารต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ และเมื่อใส่แล้วทำให้รู้สึกว่ากระเป๋าไม่รก จนสามารถที่จะมีอะไรเข้าไปอยู่ได้

หากคุณผู้ชายเลือกกระเป๋าถือจาก 3 วิธีด้านบนก็สามารถที่จะมั่นใจได้เลยว่าหนุ่ม ๆ จะสามารถมองหากระเป๋าถือผู้ชายใบที่เหมาะกับคุณผู้ชายอย่างแน่นอน

เทคนิคง่าย ๆ กับการนวดหน้าด้วยตัวเองโดย KURON

ผู้หญิงกับสภาพผิวบนใบหน้าเป็นของคู่กันเสมอ ไม่เชื่อก็ลองสังเกตบนโต๊ะเครื่องสำอางสาว ๆ ดูก็น่าจะได้ ว่ามีครีมบำรุงผิวบนหน้าใบเยอะแยะมากมายก่ายกอง หลากหลายรูปแบบ หรือสาว ๆ อาจจะเลือกใช้วิธีการเสริมด้วยการเข้าสถานเสริมความงามต่าง ๆ แน่นอนว่าต้องตามาด้วยกับราคาที่แพงไม่ใช่น้อยโดยที่อันที่จริงแล้วการนวดหน้าสามารถทำได้เองเพียงแค่ใช้ “เครื่องนวดหน้า KURON”

KURON เป็นเครื่องนวดหน้า ที่เรียกได้ว่ามีด้วยกันหลากหลายรุ่น และยังเป็นเครื่องนวดหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตามแต่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Kuron A ที่เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดและมีฟังก์ชั่นเยอะที่สุด

เนื่องด้วย เครื่องนวดหน้า Kuron นั้นจะทำหน้าที่ในการช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วลอย และสมารถบำรุงผิวหน้าได้อีกด้วยขณะเดียวกันหากใช้ครีมบำรุงผิวแล้วรู้สึกว่าเนื้อครีมไม่ค่อยที่จะซึมลงพื้นผิวของสาว ๆ เท่าไหร่นัก คิวรอน ก็จะทำหน้าที่ในการผลักผิวเหล่านั้น ให้ลงสู่ผิวและช่วยกระชับผิวได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถใช้ได้กับสกินแคร์ หรือ เจลลดรอยสิว และครีมชนิดอื่น ๆ

หลักการทำงาน 6 ขั้นตอนของเครื่องนวดหน้า ของทางแบรนด์

สำหรับเครื่องนวดหน้าของทาง แบรนด์ Kuron นั้นจะมีหลักการทำงานเพียงแค่ 6 ข้อง่าย ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย และเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว 6 ขั้นตอนนั้นประกอบไปด้วย

1. การทำความสะอาดผิวหน้า
2. การนวดเพื่อเตรียมผิวให้พร้อม
3. การนวดบำรุงผิว
4. การนวดยกกระชับผิว
5. การนวดเพื่อให้ผิวขาวและกระจ่างใส
6. การลดริ้วรอย

Review การใช้ KURON BYKUNG INTER

เครื่องนวดหน้าจากคิวรอนเหมาะกับใครบ้าง

คิวรอน มีความเหมาะสมกับสาว ๆ ทุกเพศและทุกวัยไม่จำเป็นต้องเป็นสาววัย 30 – 35 ปีขึ้นไปเท่านั้น เพราะปัจจุบันริ้วรอยสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย แม้ว่าจะอยู่เพียงแค่ 15 – 20 ก็ตามแต่ โดยริ้วรอยต่าง ๆ นั้นจะขึ้นอยู่ตามใต้ตา ข้างแก้ม  ตีนตา หรืออาจจะเป็นรอยระหว่างคิ้วและบริเวณหน้าผากที่เป็นผลมาจากการขมวดคิ้ว ดังนั้นการใช้ เครื่องนวดหน้าจาก Kuron ก็เปรียบเสมือนกับการทำโฟโนที่คลินิกราคาแพง แต่สำหรับคิวรอนนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน สามารถพกพาและเดินทางได้สะดวก สามารถใช้ได้หลายจุดนอกจากผิวหน้าได้อีกด้วยทั้ง ท้องแขน หน้าอก ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่

สาว ๆ ควรใช้บ่อยแค่ไหน

สำหรับวิธีการใช้ คิวรอน ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ควรที่จะใช้บ่อยจนเกินไป อย่างเช่น หากเป็นสวผิวหน้าแห้งและบอบางอาจจะใช้เพียงแค่ 3 – 4 ครั้งต่ออาทิตย์ และถ้าหากทราบว่าสภาพผิวของตัวเองนั้นเป็นสิวอักเสบได้ง่าย ควรที่จะเลือกปรับการใช้แบบ Low เพื่อปรับให้สภาพผิวแข็งแรง  แต่ถ้ามีสภาพผิวที่แข็งแรงอยู่แล้วสมารถใช้ได้ตลอดเวลา

รองเท้า VANS กับประวัติความเป็นมาที่น่าทึ่ง

ปัจจุบันคงจะเป็นเรื่องที่จะปฏิเสธได้ยากที่จะไม่มีคนที่ไม่รู้จักรองเท้า VANS เนื่องด้วยรองเท้าจากแบรนด์นี้เป็นรองเท้าที่เกิดขึ้นมานานนม และได้กลายสู่เป็นรองเท้าในตำนานในที่สุด ด้วยการออกแบบและการดีไซน์ของผู้ผลิต ให้สวมใส่ได้อย่างสบาย พร้อมทั้งยังคงไว้ซึ่งความเป็นแฟชั่นรองเท้าทำให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ หันมาให้ความสนใจกันมากพอสมควร โดยที่ไม่รู้เลยว่าอันที่จริงแล้วรองเท้า VANS มีประวัติมาอย่างยาวนานมาก ๆ อีกแบรนด์หนึ่ง

รองเท้า VANS เกิดขึ้นและจัดจำหน่ายในครั้งแรกเมื่อปี 1966 โดยผู้ผลิต 3 คนด้วยกันซึ่งมีความหลงใหลและชื่นชอบรองเท้าป็นพิเศษ โดยเริ่มต้นที่ Paul Van Doren ซึ่งเขาได้ใช้ประสบการณ์ตลอด 20
ปีในโรงงานรองเท้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนแบรนด์รองเท้าของตัวเอง โดยมีพี่ชายของเขาที่ชื่อว่า Jim Van Doren ซึ่งเป็นผู้ที่มีความชำนาญในด้านการใช้งานด้านเครื่องจักรการผลิต และยังได้ร่วมอีกผู้คิดค้นและมีความชำนาญในการออกแบบจนทำให้รองเท้าแวนเป็นรองเท้าที่มีความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สองคนนั้นคือ Serge D’Ella และ Gordy Lee

ในช่วงแรกรองเท้า VANS เน้นการผลิตที่เป็นรองเท้าผ้าใบผู้ชายเป็นแบบแรก และที่สำคัญไปกว่านั้น Paul ยังได้ใช้หลักการ “ขายตรง” มากกว่าหลักการทงการตลาด และการบัญชีเพราะเขาต้องเริ่มทำทุกอย่างในธุรกิจ และยังไม่ต้องการการกำหนดทิศทางในการผลิตให้มากเท่าไหร่นัก และเพื่อให้การผลิตรองเท้า VANS ในช่วงแรก ๆ มีคุณภาพและมาตรฐานที่ครอบคลุมมากที่สุด และในที่สุด Paul ก็ได้วางจำหน่ายรองเท้า VANS รุ่นแรกเมื่อปี 1966 ในวันที่ 16 มีนาคม ซึ่งในปีแรกที่ทำการเปิดเป็นร้านอย่างเป็นทางการนั้น VANS ต้องประสบปัญหาขาดทุนไปกว่า 6 สาขาหลังจากที่ได้พยายามเปิดให้ได้ครบ 10 สาขา ในช่วงแรก โดยรองเท้าที่ขายได้เป็นคู่แรกนั้นเป็นรองเท้าผู้ชายที่ชื่อว่า “VAN #44 Deck Shoes – AUTHENTIC”

Steve Van Doren - ผู้กอตั้ง

ดังนั้นตั้งแต่อดีตหากนับตั้งแต่เริ่มประกาศตัวอย่างเป็นทางการในปี 1966 จึงสามารถนับได้ว่าเป็นเวลากว่า 47 ปีแล้วที่ VANS โลดแล่นอยู่บนถนนสายรองเท้าสายนี้ โดยแวนได้ผลิตรองเท้ารูปแบบต่าง ๆ อย่างมากมายทั้งแบบของผู้ชายและผู้หญิงอย่างเช่น รองเท้าผ้าใบผู้หญิง รองเท้ากีฬาผู้หญิง หรือ รองเท้าแตะ และอุปกรณ์กีฬาชนิดอื่น ๆ ในเวลาต่อเมื่อเพื่อเพิ่มช่องทางของตลาดให้กว้างขึ้น เพราะพื้นทีที่จะยืนได้นั้นจะต้องต่อสู่กับขาใหญ่อย่าง รองเท้าจาก Nike, Adidas, Puma และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่พร้อมจะโค่นเค้าให้ล้มอยู่เสมอ

โรงงานผลิตรองเท้า VANS เมื่อปี 1966

เรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งกับ ประวัติรองเท้า NIKE

ขอบคุณข้อมูลจาก Sportpopula